ปัจจุบันเราอยู่ในยุคที่ดิจิตอลมาร์เก็ตติ้ง (Digital Marketing) หรือการตลาดออนไลน์ เป็นทางเลือกที่นำไปสู่ทางรอด ในยุคดิจิตอลนี้การตลาดออนไลน์ไม่ใช่เทรนด์ แต่เป็นช่องทางการประกอบอาชีพที่รองรับพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว การค้าขายแบบหน้าร้านและพึ่งพาลูกค้าประจำ อาจไม่ใช่คำตอบเดียวของผู้ประกอบการอีกต่อไป เพราะลูกค้าที่เดินเข้าร้านในวันนี้พร้อมที่จะสั่งสินค้าผ่านแพลตฟอร์มต่าง ๆ ในวันพรุ่งนี้ ดังนั้นเรามาเพิ่มความรู้กันสักหน่อย เพื่อให้คุณเริ่มต้นทำธุรกิจบนตลาดออนไลน์ได้อย่างมั่นใจ

ดิจิตอลมาร์เก็ตติ้ง vs ออนไลน์มาร์เก็ตติ้ง เริ่มตรงไหน คืออะไรกันแน่

                ในโลกออนไลน์ตอนนี้จะมีคำอยู่ 2 คำที่ชวนให้มือใหม่หัดขายออนไลน์เกิดความสับสน นั่นคือ ดิจิตอลมาร์เก็ตติ้ง กับ ออนไลน์มาร์เก็ตติ้ง และเมื่อถามว่าเราจำเป็นรู้ความหมายของ 2 คำนี้ด้วยหรือ คำตอบที่ควรจะเป็นคือ ควรทราบเอาไว้เพื่อการเลือกใช้งานที่ถูกช่องทาง และสามารถดำเนินธุรกิจได้โดยที่ไม่ต้องมาศึกษาย้อนหลัง

ดิจิตอลมาร์เก็ตติ้ง (Digital Marketing)

โดยทั่วไปแล้วการทำการตลาด (Marketing) จะหมายถึงการกระจายสินค้าเพื่อขยายแบรนด์ ให้เข้าถึงกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย ส่วนการทำการตลาดออนไลน์ (Digital Marketing) จะเป็นรูปแบบการทำตลาดผ่านแพลตฟอร์มดิจิตอล โดยอาศัยอินเทอร์เน็ตและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์เป็นสื่อกลาง เพื่อเป้าหมายในการเข้าถึงกลุ่มลูกค้า และขยายแบรนด์สินค้าเช่นกัน เพียงแต่การใช้วิธีทำตลาดบนโลกออนไลน์จะสามารถเข้าถึงลูกค้าได้เร็วและง่าย อีกทั้งยังขยายกลุ่มลูกค้าได้กว้างขึ้น ด้วยช่องทางการทำตลาดที่หลากหลาย เช่น

  • Social Media ได้แก่ Line, Twitter, Instragram, TikTok และ Facebook
  • Search Engines ได้แก่ Google, Yahoo, Bring และเว็บไซต์ต่าง ๆ

ออนไลน์มาร์เก็ตติ้ง (Online Marketing)

คำนี้ไม่มีอะไรซับซ้อนขอแค่เข้าใจหลักการว่า ออนไลน์มาร์เก็ตติ้งคือ ช่องทางการทำตลาดของดิจิตอลมาร์เก็ตติ้ง เป็นสื่อกลางที่การตลาดออนไลน์ต้องพึ่งพาไม่ต่างจากเครื่องมืออิเล็กทรอนิกส์ หรือสรุปได้ง่าย ๆ ว่าการตลาดออนไลน์ไม่สามารถเติบโตได้ด้วยตัวเอง ต้องอาศัยสื่อกลางทั้งเครื่องมืออิเล็กทรอนิกส์ อินเทอร์เน็ต และออนไลน์มาร์เก็ตติ้ง เพื่อให้แบรนด์หรือผู้ประกอบการได้สื่อสารกับกลุ่มลูกค้านั่นเอง

ช่องทางเริ่มต้นทำดิจิตอลมาร์เก็ตติ้ง ถนัดแบบไหน เริ่มต้นที่แบบนั้น

                มาถึงช่องทางของการเริ่มต้นทำดิจิตอลมาร์เก็ตติ้ง ซึ่งต้องบอกว่ามีอยู่หลากหลายช่องทางให้เลือก หรือจะรวบทั้งหมดก็ได้ตามความสะดวก แต่จะรวบหรือเลือกก็ต้องรู้จักก่อนว่า แต่ละช่องทางช่วยผลักดันการตลาดออนไลน์ของคุณยังไง

  1. Google ads วิธีการง่าย ๆ แค่ “จ่ายเงิน” เพื่อให้เว็บไซต์หรือโพสของคุณขึ้นไปอยู่อันดับบนสุดของการเสิร์ช เมื่อมีการค้นหาคำหรือคีย์เวิร์ดที่เกี่ยวข้องกับคุณ บนหน้าเสิร์ชก็จะคัดเลือกเอาเว็บไซต์หรือบทความที่มีการจ่ายเงินขึ้นมาก่อน สังเกตง่าย ๆ ว่าจะมีคำว่า “โฆษณา” หรือ “Ads” นำหน้า ซึ่งทางผู้ให้บริการ Search Engine จะทำการเรียกเก็บเงินกับคุณตามจำนวนคลิกที่เพิ่มขึ้น
  2. SEO (Search Engine Optimization) การ Optimize คือการปรับปรุงคอนเทนต์ เว็บไซต์ เนื้อหา และคีย์เวิร์ดบนบทความให้ง่ายต่อการค้นหา เป็นการทำดิจิตอลมาร์เก็ตติ้งที่จะประสบความสำเร็จอย่างมาก เพราะเว็บไซต์หรือบทความของคุณมีโอกาสที่จะขึ้นไปอยู่อันดับต้น ๆ ของหน้าเสิร์ชโดยที่ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย อีกทั้งผลการค้นหายังไม่มีคำว่า “โฆษณา” นำหน้าด้วย
  3. Content คือ วิธีการที่ผู้ประกอบการใช้สื่อสารกับผู้คน เช่น บทความ, แคปชั่น, รูปภาพ และคลิปวิดีโอ การสร้างคอนเทนต์คุณจะต้องมีความชัดเจนในการสื่อสาร ต้องรู้ว่าเราผลิตคอนเทนต์นี้มาเพื่ออะไร เพราะถ้าคุณยิ่งทำคอนเทนต์ตรงกับความต้องการค้นหาของผู้คนมากเท่าไหร่ Traffic จะยิ่งเพิ่มมากขึ้น
  4. Social Media คือ ศูนย์รวมกลุ่มเป้าหมายขนาดใหญ่ ที่ผู้ประกอบการยุคนี้นิยมใช้เป็นสื่อกลางสำหรับการสื่อสารกับลูกค้าและผู้คน เช่น Facebook, TikTok, Instagram และ Twitter เป็นต้น

ดิจิตอลมาร์เก็ตติ้งเกิดขึ้นเพราะยุคสมัยของเราเปลี่ยนไป เทคโนโลยีเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวัน มีผู้ประกอบการรายใหม่มากมายที่เข้ามาใช้พื้นที่ในโลกดิจิตอลเพื่อสร้างส่วนแบ่งทางการตลาด ดังนั้นเส้นทางที่กล่าวไปข้างต้นนี้ คุณสามารถเลือกเพื่อเป็นทางรอดได้ ขอแค่คุณมีความเข้าใจและพยายามตามกระแสของการเปลี่ยนแปลงให้ทัน